เริ่มมี.ค.49 ทั่วประเทศ 2.8 แสนคัน-สั่งคุมค่าโดยสารกันโขกราคาลูกค้า นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รมช. พาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงพาณิชย์ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านสายด่วน 1569 ถูกเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารรถจักรยานยนต์ แพงเกินจริง จึงได้ร่วมกับกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม โดยได้ข้อสรุปว่า ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 49 เป็นต้นไป รถจักรยานยนต์รับจ้างทุกคัน ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศกว่า 2.8 แสนคัน แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ 1.1 แสนคัน และต่างจังหวัด 1.7 แสนคัน จะต้องปรับเปลี่ยนป้ายทะเบียนส่วนบุคคลหรือป้ายขาวดำ มาเป็นป้ายทะเบียนรับจ้างสาธารณะหรือป้ายเหลือง รวมทั้งจะมีการกำหนดอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง ซึ่งจะมีคณะกรรมการกลางของแต่ละจังหวัดเป็นผู้กำหนด
“ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ ได้รับการร้องเรียนเรื่องค่าบริการรถมอเตอร์ไซค์แพงเป็นจำนวนมาก ทาง กระทรวงฯ จึงได้ประสานไปยังกรมขนส่งทางบก ให้ดูแลเรื่องนี้ ซึ่งต่อไปหากผู้บริโภครายใดพบเห็นการเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ หรือผู้ให้บริการต่างๆ สามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วนผู้บริโภค 1569 จะให้ทางกรมการค้าภายในเข้าไปจัดการ"
นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต อธิบดีกรม การขนส่งทางบก กล่าวว่า อัตราค่าโดยสารที่จะถูกกำหนดขึ้นมาจะต้องเสร็จก่อนผลบังคับใช้ทางกฎหมายในวันที่ 7 มี.ค. ปีหน้า ส่วนการปรับเปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นสีเหลือง คาดว่าจะเริ่มทยอยให้รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างทุกคันมาขึ้นทะเบียนเป็นป้ายเหลืองได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อให้ทันกับการบังคับใช้กฎหมายเช่นกัน
ทั้งนี้รถจักรยานยนต์ทุกคันที่ถูกขึ้น ทะเบียนป้ายเหลืองและกำหนดอัตราค่าโดยสารแล้ว ตามกฎหมายใหม่จะต้องมีการควบคุมในเรื่องความปลอดภัย โดยจะกำหนดมาตรฐานของรถจักรยานยนต์รับจ้างให้เหมาะสม เช่น ต้องมีที่จับท้ายคัน มีที่บังโซ่ บังท่อไอเสีย และการแต่งกายที่สุภาพ ซึ่งหลังจากกฎหมายบังคับใช้ หากรถมอเตอร์ไซค์คันใดทำผิดระเบียบ เช่น ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ จะถูกจับกุมและปรับตามกฎหมายกรมขนส่งทางบกต่อไป
“การเข้ามาจัดระเบียบรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างในครั้งนี้ เดิมทีจะมีผลบังคับใช้ต้องขึ้นทะเบียนป้ายเหลืองตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. ปี 48 แต่ได้เลื่อนมีผลบังคับใช้ออกไปเป็นเดือน มี.ค. ปีหน้า เพราะต้องใช้กฎหมายบังคับใช้ถึง 9 ฉบับ โดยได้ทำการแก้ไขระเบียบตามกฎกระทรวงใหม่ ซึ่งได้เสนอกฎกระทรวงให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแล้ว โดยล่าสุดผ่านการพิจารณามาแล้ว 7 ฉบับ และรอการพิจารณาอีก 2 ฉบับ คาดว่าสัปดาห์หน้าคงจะผ่านหมด ซึ่งหลังจากผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว ก็จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา และดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์ประจำจังหวัดต่อไป"